top of page

ปรัชญาโรงสี (ตอนที่ 1)

เมื่อพูดถึงความสามารถของคนเรานั้นย่อมแตกต่างกันหลายด้าน ทั้งด้านความคิด ทัศนคติ ความเชื่อ ประสบการณ์ สิ่งต่างๆเหล่านี้เองทำให้การทำธุรกิจที่เหมือนกัน แต่ความสำเร็จนั้นไม่เหมือนกัน เมื่อความเชื่อและทัศนคติที่ต่างกัน การปฏิบัติตนก็ไม่เหมือนกัน การทำงาน การตัดสินใจต่างๆเหล่านี้ มาจากทัศนคติหรือที่หลายท่านอาจเรียกว่า "วิสัยทัศน์" คุณอาจจะได้ยินคำกล่าวว่า ธุรกิจโรงสีข้าวเป็นธุรกิจที่สร้างความมั่นคั่ง ร่ำรวยให้กับเจ้าของโรงสีอย่างรวดเร็วและมากมาย แล้วเถ้าแก่โรงสีข้าวที่ประสบความสำเร็จนั้น มีหลักการในการบริหารกิจการอย่างไร ให้ประสบความสำเร็จ วันนี้ เราได้รวบรวมวิสัยทัศน์เหล่านั้นมาแนะนำเพื่อเป็นแนวทางให้กับผู้ที่เริ่มทำธุรกิจใหม่กันครับไปอ่านพร้อมๆกันเลยครับ

1. คิดให้รอบคอบก่อนที่จะตัดสินใจทำธุรกิจโรงสีข้าว

ในการตัดสินใจที่จะทำกิจการใดๆก็ตาม ต้องมีความรอบคอบ และรู้จริงในเรื่องนั้น สมัยนี้เรียกว่าการทำ SWOT หรือ สวอท (การวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และอุปสรรค) ดังนี้

- ทำเล แหล่งวัตถุดิบ

- การเดินทาง / การขนส่งทั้งขาเข้า - ขาออก / คู่แข่ง

- เงินทุน / แหล่งทุน

- ความรู้ในเรื่องเครื่องจักร แรงงาน

- ความสามารถของผู้บริหาร วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร

สิ่งเหล่านี้ต้องนำมาคิดวิเคราะห์หาคำตอบ ก่อนการลงทุน การทำธุรกิจสีข้าว (โรงสีข้าว) นั้น อันดับแรกต้องรู้ว่าเราจะสีข้าวอะไร (พันธุ์ของข้าว) เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวชัยนาท ข้าวสุพรรณ ข้าวนึ่ง หรือข้าวอื่นๆ เป็นต้น ออกมาขายให้กับลูกค้ากลุ่มไหน เช่น

- รับจ้างรัฐบาลโดยเข้าร่วมโครงการจำนำข้าวหรือโครงการที่ภาครัฐจัดเพื่อส่งเสริมเกษตรกร

- สีออกมาขายให้ผู้บริโภคภายใน (ข้าวถุง 5-15-25-50 กิโลกรัม)

- สีข้าวบรรจุถุงส่งให้ยี่ปั๊วบริโภคภายใน

- สีบรรจุกระสอบ/ถุงบิ๊กแบคส่งให้ลูกค้าซึ่งเป็นผู้ส่งออกไปปรับปรุงแล้วส่งออกไปต่างประเทศ หรือจัดส่งออกด้วยตนเอง

คุณต้องตั้งโจทย์แล้วนำข้อมูลที่ได้มา เพื่อเป็นการตัดสินใจในการสร้างโรงสีข้าวให้ตรงกับเป้าหมายลูกค้าของคุณให้ชัดเจน แล้วลงมือในขั้นตอนต่อไปให้เป็นไปตามกลุ่มเป้าหมาย ศึกษาเรื่องแหล่งพื้นที่การทำนา และพันธุ์ข้าวที่ชาวนาในพื้นที่จังหวัดนั้นๆและจังหวัดไกล้เคียงนิยมเพาะปลูกมากที่สุดและตรงกับพันธุ์ข้าวที่ท่านต้องการ ตัวอย่าง คุณต้องการสร้างโรงสีข้าวนึ่ง (เนื่องจากคุณมีตลาดการค้าข้าวในต่างประเทศ) คุณก็ต้องหาทำเลที่มีการปลูกข้าวชัยนาท และพื้นที่ที่มีการปลูกข้าวนาปรัง เนื่องจากเป็นวัตถุดิบที่จะนำมาผลิตเป็นข้าวนึ่งได้ดีที่สุด ในทางกลับกันถ้าคุณมีตลาดข้าวเหนียวคุณภาพดีเพื่อการส่งออก คุณก็ต้องเลือกทำเลที่มีการเพาะปลูกข้าวเหนียวคุณภาพดี เช่น เชียงราย เชียงใหม่ ภาคอีสานบางจังหวัด เป็นต้น

การเลือกชัยภูมิที่ดี จะทำให้เราได้เปรียบ การทำการค้าต้องมองยาวและใจเย็น รอบคอบ อย่าใจร้อน ยิ่งเป็นการลงทุนในยุคที่ใช้จ่ายในการขนส่งสินค้า หรือที่เรียกว่าโลจิสติกส์สูงนั้น การเลือกทำเลที่ดีทำให้เราได้เปรียบในเชิงต้นทุนอย่างมาก