ปรัชญาโรงสี (ตอนที่ 3)
มาต่อกันเลยค่ะ กับคำแนะนำดีๆในการประกอบอาชีพโรงสีข้าว จากตอนที่แล้วที่ได้แนะนำแนวทางในการคว้าโอกาสที่มาถึงกับการมองธุรกิจในด้านบวก วันนี้เราจะแนะนำในส่วนของการมองธุรกิจและเหตุการณ์ให้ขาดค่ะ

คิดให้ช้า ทำให้เร็ว
ในการทำธุรกิจโรงสีข้าวนั้น ต้องเป็นคนที่คิดให้ช้า (คิดไตร่ตรองให้รอบคอบ ถี่ถ้วน) แต่เมื่อต้องตัดสินใจ ต้องเด็ดขาดและรวดเร็ว เพราะในยุคที่ข้อมูลข่าวสาร เข้าถึงได้ไวอย่างนี้ทำให้การซื้อขายต้องรวดเร็ว เพื่อให้ทันต่อการแข่งขัน ถ้ามัวรอไม่รีบเร่งตัดสินใจ คงไม่ได้ข้าวเปลือกมาขายแน่ๆ
การคิดช้าไม่ได้หมายความว่า คิด คำนวณราคาช้า แต่ท่านต้องคิดไว้แล้วว่าราคาเท่าไหร่ขายได้ และสามารถต่อรองกับผู้ซื้อได้ทันที เพราะในโลกของการซื้อขายข้าวสารที่มีหั่งเช้งขึ้นลงวันละหลายรอบ ท่านต้องมีต้นทุนในใจตลอดเวลา ถ้าท่านมัวแต่คิดราคา คนอื่นก็ขายตัดหน้าไปหมดแล้ว เคยมีเหตุการณ์แบบนี้บ่อยครั้ง เช่น เช้าวันนี้ขายราคานี้ พอบ่ายราคาลดลง พรุ่งนี้ราคาลงต่อเนื่อง เช่นเดียวกับราคาซื้อข้าวเปลือก ถ้าเราไม่ตัดสินใจซื้อข้าวเปลือกวันนี้ พรุ่งนี้ราคาซื้ออาจเพิ่มสูงขึ้นก็ได้
"อาจมีหลายครั้งที่ท่านพลาดโอกาสดีๆ ในการซื้อและขายเพราะว่าท่านคิดช้าเกินไป มีหลายครั้งเช่นกันที่ท่านพลาดโอกาสสำคัญไป เพราะว่าคิดเร็วเกินไป ฉะนั้นท่านต้องฝึกคิดให้รอบคอบไว้ก่อนล่วงหน้าที่จะตัดสินใจ เพราะการต่อรองทางโทรศัพท์จะทำให้เสียสมาธิและตัดสินใจผิดพลาดได้"

เมื่อเดินหน้าไม่ได้ก็ต้องถอย
รถยังมีเกียร์ถอยหลัง การบริหารโรงสีข้าวก็ต้องมีการคำนวณว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ ที่ทำมานั้นเป็นอย่างไร แล้วเราจะเดินหน้าต่อไปหรือหยุดพักสักหน่อย บางครั้งก็ต้องเข้าเกียร์ถอยได้เหมือนกัน เพราะในตลาดการค้าข้าวเปลือกและข้าวสารของวงการโรงสีนั้นมีการแจ้งราคาหั่งเช้งขึ้นลงทุกๆวัน วันละหลายๆครั้ง ถ้าท่านบุกเดินหน้าอย่างเดียวเพราะคิดว่าทำได้ ขายได้ ซื้อได้ แต่ท่านลืมไปว่าในขณะที่ท่านทำอยู่ก็มีอีกจำนวนมากที่คิดอย่างเดียวกับท่าน ในยุค IT ที่สามารถดึงผู้ค้าทั่วโลกให้มาเจอกัน อัตราการแลกเปลี่ยนการค้าจึงได้เปรียบกว่า ถ้าเรามัวแต่เล็งผลกำไร บางครั้งก็พลาดขาดทุนได้ การถอยหลังไม่ได้แปลว่าแพ้หรือไม่สู้ แต่เป็นการได้พักแล้วนั่งทบทวนน่าจะดีกว่า มีครั้งหนึ่งเคยถามเถ้าแก่โรงสีว่า ทำไม!!ข้าวเต็มโกดังจึงไม่ขาย ได้คำตอบว่าเวลานี้หั่งเช้งกำลังขึ้น พักการขายไว้สักช่วงหนึ่ง แล้วมาเร่งเก็บเงินที่ได้ปล่อยบัญชีไปหลายเดือนแล้วกลับมาก่อน แล้วจึงบุกใหม่เพราะคิดราคาข้าวเปลือกและข้าวสารกำลังปรับขึ้นราคา เมื่อเรือออก ถ้าขายวันนี้แล้วส่งสัปดาห์หน้า ราคาข้าวสารลงจะทำให้ส่งมอบได้ยากและจะต้องถูกตัดราคาอย่างแน่นอน พักการขายแล้วเก็บบัญชีก่อนน่าจะดีกว่า
"การเดินหน้าเพียงอย่างเดียวในบางโอกาสก็ต้องหยุดเพื่อทบทวนและถอยสักก้าว ทะเลจะกว้างขึ้น การได้พักแล้วคิดน่าจะดีกว่าเดินหน้าิย่างรวดเร็ว ในการแข่งขันกีฬายังมีคำว่า จังหวะและฝีมือ"