top of page

ทางไกลนับหมื่นลี้...ต้องมีก้าวแรก" (ตอนที่ 1)

การเดินทางไม่ว่าจะไกลแค่ไหน ก็ต้องมีก้าวแรก การสีข้าวก็เช่นนั้น ถ้าท่านคิดวางแผนไว้ในสมอง ดูข้อมูลจากแคทตาล็อกมากมาย สเป็คเยอะแยะ ก็ไม่สามารถสีข้าวได้ ถ้าต้องเริ่มจากการถมดินและสร้างอาคารขึ้นมา บางครั้งท่านคิดว่ายังห่างไกลความจริงมาก ท่านลองทีละก้าวๆ ไม่นานเกินรอประมาณสัก 7-8 เดือนก็สำเร็จ ถ้าไม่สร้างใหญ่เกินไป

เคล็ดลับข้องที่หนึ่งคือ การลงมือทำแล้วเดินไปทีละก้าว อย่างมองไกลเกินไป อย่าหันหลังบ่อยเกิน ฟังคำแนะนำที่ดีแต่อย่าเปลี่ยนบ่อย ถ้าทำได้อย่างนี้ไม่ช้าโรงสีข้าวก็เสร็จอย่างแน่นอน

เมื่อเรียนจบใหม่ๆ เพื่อนของผมได้มอบของขวัญเป็นหนังสือ ที่บอกถึงการทำโรงสีให้ประสบความสำเร็จไม่ได้มาจากการฟังเพียงอย่างเดียว แต่ท่านต้องสีข้าวให้เป็นและต้องขายได้ด้วย "หมื่อนลี้ต้องมีก้าวแรก"

วันไหนที่ท่านได้ขายข้าวกระสอบแรกนั้น ท่านกำลังก้าวสู่ประตูชัยแล้วจงเดินต่อไป เภ้าแก่โรงสีท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า "การสีข้าวนั้นดูไม่ยาก แต่ทำให้สม่ำเสมอนั้นยากที่สุด" เครื่องจักรทุกตัวคือความสำคัญ อย่าคิดว่าตัวนั้นสำคัญกว่าตัวนี้ ถึงแม้ว่าในยุค IT ที่ทันสมัยก็ยังต้องพึ่งพาความรู้พื้นฐานจากรุ่นคุณพ่ออยู่เสมอ ท่านปิดหนังสือนี้แล้วลงมือทำทันที ขอแสดงความยินดีกับคุณที่กำลังผ่านก้าวแรกเพื่อไปลี้ที่สอง

จงเป็นฝ่ายให้ และให้มากที่สุดเท่าที่ท่านทำได้

หลายท่านคุ้นเคยกับคำว่า "ผู้ให้ย่อมได้รับการตอบแทน" แต่ยังมีอีกหลายท่านไม่ทราบว่าการให้นั้นนอกจากเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นแล้วยังเป็นการช่วยตัวเองอีกด้วย เพราะการให้ ทำให้เกิดการไหลเวียนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ไม่มีใครประสบความสำเร็จโดยไม่เคยเป็นฝ่ายให้มาก่อน ในวงการสีข้าว ข้อมูลและข่าวสารนั้นต้องแลกเปลี่ยนกันตลอด ราคาขึ้นลง ข้าวเปลือกจากแหล่งไหนเป็นอย่างไร เครื่องจักรรุ่นใหม่ๆ ดีกว่ารุ่นเก่าตรงไหน ทำไมจึงต้องติดเครื่องมือตัวนั้นตัวนี้ ในยุคนี้ข้อมูลเดินทางได้รวดเร็ว การให้เท่านั้นที่จะทำให้คุณได้กลับมาอย่างรวดเร็ว

ยอมรับในผลของการทำงาน

ในการสีข้าวทุกครั้งใช่ว่าจะได้ดังใจที่ต้องการ ข้าวเปลือกรูปนี้ น่าจะสีได้ขนาดนี้ เพราะเรารับราคานี้ไว้ถ้าได้ตามนี้ก็จะมีกำไร แต่ถ้าไม่ได้จะต้องขาดทุนอะไรทำนองนี้ ถ้าท่านยึดติดกับมันท่านจะมีความทุกข์ตลอดไป เพราะว่าไม่มีอะไรที่แน่นอน วันนี้ท่านสีข้าวได้ 8 หาบ (48%) วันพรุ่งนี้อาจได้มากกว่านี้ก็เป็นได้ เพราะว่าข้าวเปลือกพนักงานสีข้าว อากาศ ความชื้นทุกอย่างคือตัวแปร จงทำให้ดีที่สุดและยอมรับผลของมัน ถ้าคุณมัวแต่มานั่งยึดติดกับผลงานในอดีตแล้วมานั่งวิเคราะห์หาต้นเหตุ โทษเครื่องจักร โทษทุกปัญหาแล้วท่านจะต้องมานั่งรักษาตนที่เกิดจากความเครียดอีก

มีเรื่องเล่ากันว่า เพื่อนคนหนึ่ง บอกว่าเขาสีข้าวได้ 54% อีกคนก็เชื่อโดยที่ยังไม่ได้ไปดูว่าเขาคัดอย่างไร เขาสีข้าวอะไร แต่ก็บอกว่าข้าวเหมือนกัน ซื้อจากแหล่งเดียวกัน ท่านก็ยังไม่ได้ไปดูด้วยตนเอง กลับมาก็มานั่งปวดหัว โทษพนักงานสีข้าวว่าสู้เขาไม่ได้ เครื่องจักรสู้เขาไม่ได้เพราะเราไม่ได้ใช้เครื่องจักรเหมือนกับเขาเป็นต้น ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง อย่างนี้ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในการโลกแห่งความเป็นจริงไม่มีโรงสี 2 โรงที่เหมือนกันโดยสิ้นเชิง เพราะถึงสร้างพร้อมกัน เครื่องมือเหมือนกันก็สีข้าวสารต่างกัน คัดเปอร์เซ็นต์ต่างกัน ข้าวเปลือกก็ต่างกัน ความชื้น ความขาว เหล่านี้เป็นต้น

มีความมุ่งมั่นในการทำงาน

ความมุ่งมั่นนั้นจะนำไปสู่ชัยชนะ หลายคนยังไม่เข้าใจถึงความมุ่งมั่นและความต้องการ ถ้าคุณไม่หยุดความต้องการของคุณแล้ว คุณจะไม่มีความสุขในการทำงาน โรงสีข้าวนั้นสามารถสีได้ตลอดวัน ตลอดคืนโดยไม่ต้องหยุดพัก ความโลภจะเผาใจคุณในขณะที่หั่งเช้งดี โรงสีคุณก็เล็กเกินไป แต่ถ้าหั่งเช้งไม่ดีโรงสีคุณก็ใหญ่เกินไปจริงๆ แล้วโรงสีคุณก็เท่าเดิม ใจคุณต่างหากที่เปลี่ยนไป เราต้องตั้งเป้าหมายในการทำงานว่า ปีหนึ่งๆเราจะทำงานอย่างไร กี่วัน กี่เกวียน แล้วตั้งใจทำไปให้ถึงที่ต้องการเมื่อเป้าใหญ่ได้แล้วส่วนอื่นๆจะตามมา การสีข้าวมากเท่าไหร่ก็ทำได้ แต่การขยายนั้นสำคัญกว่า


Featured Posts
Recent Posts
Archive
Search By Tags
ยังไม่มีแท็ก
Follow Us
  • Facebook Basic Square
  • Twitter Basic Square
  • Google+ Basic Square
bottom of page