ทางไกลนับหมื่นลี้...ต้องมีก้าวแรก" (ตอนที่ 2)

สวัสดีคุณลูกค้าทุกท่านค่ะ จากตอนที่แล้วเราได้พูดถึงข้อคิดในการเริ่มต้นการสร้างธุรกิจกันไปแล้ว เรามาต่อกับข้อคิดที่จะนำมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตและการพัฒนาธุรกิจกันต่อเลยค่ะ

อย่าตกเป็นเหยื่อของความเครียด

ความเครียดของเถ้าแก่โรงสีข้าวนั้นมีหลายสาเหตุ ความวิตกกังวล จะทำให้ตัดสินใจผิดพลาดได้มากกว่าคนที่สุขุมรอบคอบ คนที่วิตกกังวลจะมองสิ่งต่างๆบิดเบือนไปจากความจริง จึงแก้ปัญหาไม่ถูกจุดเนื่องจากไม่ศึกษาปัญหาอย่างถ่องแท้ แก้ปัญหาอย่างลวกๆ ฟังคำโฆษณาจากคนขายเครื่องว่าจะช่วยปัญหาอย่างโน้นอย่างนี้ แต่จริงๆแล้วแก้ไม่ได้ กลับกลายมาเป็นสร้างปัญหามากขึ้นอีก ความเคยชินจะทำให้มองเห็นเครื่องเก่าๆ ล้าสมัยไปแล้ว

เมื่อแก้ปัญหาไม่ถูกจุด ปัญหาจึงลุกลามไปเรื่อยๆ เมื่ออารมณ์ไม่ดี คนรอบข้างก็หนีหายไปทีละคนสองคนถ้ารู้สึกเครียดกับการทำงานของลูกน้อง ทำให้เครื่องจักรเสียหายทำให้เสียเวลา ส่งข้าวสารไม่ทันเวลา ข้าวเปลือกไม่แห้ง ข้าวไม่พอสี คนงานขาดงาน อะไหล่ขาด ข้าวเปลือกส่งมาไม่ทัน เหล่านี้คือความเครียดที่เกิดขึ้นได้วันละหลายครั้ง

ทางการแพทย์บอกว่าอาการเครียดเป็นโรคร้ายชนิดหนึ่งซึ่งทำให้เคมีในร่างการเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แรงดันโลหิต โรคหัวใจและเบาหวาน โรคเหล่านี้จะถามหาท่าน หากท่านมีกำไรในการสีข้าวในวันนี้มากอีกเท่าไหร่ถ้าสุขภาพของท่านทรุดลงแล้วมันจะคุ้มหรือไม่ เรามาหยุดความเครียดไว้ พยายามทำใจให้สบาย คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด ข้าวจะขึ้นราคา จะลงราคา ถูกตัดออเดอร์ ก็ต้องตามสภาวะ โอกาสหน้าเรายังมีโรงสีข้าว เรายังเดินเครื่องอยู่เราก็ยังมีโอกาส

จ่ายให้ตัวเองก่อน

ในธุรกิจการสีข้าวของชาวโรงสี ตามวัฒนธรรมที่นิยมกันมาคือไม่เคยจ่ายเงินให้กับตัวเองเลย (ทั้งลูกและภรรยา) เพราะว่ากิจการโรงสีข้าวเป็นกิจการของครอบครัว ทุกคนมีงานทำและทำอย่างสุดกำลังไม่เคยเหลือบดูเวลา ทำกันตั้งแต่ไก่โห่ จะหยุดก็เมื่อรถขึ้นข้าวเรียบร้อยแล้วประมาณสี่ทุ่ม (บางโรงสีอาจเร็วกว่านี้บ้าง) จ่ายให้ตัวเองก่อนอาจจะไม่คุ้นเคยกับโรงสี แต่ถ้าท่านมัวแต่คิดว่าจะต้องมีเงินเท่านั้น เท่านี้จึงจะพอ และนำมาเฉลี่ยจ่ายให้กับทุกคนในครอบครัว คุณก็จะไม่มีวันพบกับคำว่าพออย่างเด็ดขาด

นับแต่วันนี้ไปคุณต้องสัญญากับตัวเองว่าคุณจะเลิกคิดเรื่องอื่นทั้งหมด แล้วหันมาจ่ายเงินให้กับตัวเอง (ครอบครัว) เป็นอันดับแรก ทุกสัปดาห์ ทุกเดือนและทุกปี ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจงกันเงินให้กับตัวเอง (ครอบครัว) ลงทุนในตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเองแล้วคุณจะมีเงินเหลือพอสำหรับเรื่องอื่นๆได้เอง

อย่าแปลกใจ สมองคนเราจะปรับพฤติกรรมการใช้จ่ายให้เหมาะสมได้โดยอัตโนมัติ คุณจะพบแนวทางใหม่ๆในการใช้เงินไม่นานคุณจะเคยชินกับการจ่ายเงินให้กับตัวเองคุณจะเห็นทรัพย์สินโตขึ้นเรื่อยๆ คุณจะพบว่าคุณกำลังร่ำรวยและมีเงินมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำวันนี้

เคยถามว่าคุณเคยคิดว่าคุณน่าจะรับเงินเดือนจากโรงสีข้าวของคุณเดือนละเท่าไหร่ ภรรยาคุณ ลูกๆของครอบครัวของคุณ ทุกคนที่ทำงานอยู่ในโรงสีข้าวในหน้าที่ต่างๆกัน โรงสีควรจะจ่ายเงินเดือนให้เขาเหล่านั้นเดือนละเท่าไหร่ เมื่อคิดว่าสมควรแล้วเริ่มจ่ายเงินให้กับตัวเอง...ตั้งแต่วันพรุ่งนี้

อย่ามัวแก้ปัญหาแต่จงอยู่เหนือปัญหา

โดยทั่วไปทางเดียวที่จะแก้ปัญหาได้คือลงมือจัดการกับปัญหา แต่ถ้าคุณมีสติ ใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย คุมสติให้อยู่ เพราะเมื่อเราตกใจหรือหมดความอดทน แทนที่เราจะนำสิ่งดีๆ ออกมา เรากลับนำความคิดในแง่ลบออกมาทำลายความคิดสร้างสรรค์ของเรา ทุกคนรู้ว่าทุกปัญหาย่อมมีทางแก้ไข