top of page

ทางไกลนับหมื่นลี้...ต้องมีก้าวแรก" (ตอนที่ 6)

สวัสดีค่ะ กลับมาพบกันอีกแล้วค่ะ กับเคล็ดลับดีๆในการบริหารธุรกิจกัน วันนี้มาต่อกับข้อคิดดีๆในการบริหารกิจการกันต่อเลยค่ะ

ทำในสิ่งที่ชอบ ทำในสิ่งที่รักแล้วเงินจะตามมาเอง (do what you love. the money will follow)

ความรักและการได้ทำงานที่ชอบคือปัจจัยแห่งความสำเร็จและเกิดเป็นแรงพลักดัน จะทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ เมื่อคุณได้ทำในสิ่งที่คุณรัก ความสำเร็จจะเกิดขึ้นอย่างง่ายดาย ความกระตือรือร้นของคุณจะปรากฎชัดจนทุกคนสัมผัสได้ เช่น โรงสีคุณอยู่ในแหล่งที่มีข้าวเปลือกพันธุ์ดี ใช้บริโภคภายในประเทศ คุณก็ต้องหาตลาดที่รองรับข้าวเปลือกคุณภาพดีของคุณ ถ้าคุณชอบค้าส่งออก ก็ต้องสีข้าวอีกแบบหนึ่ง จะเป็นข้าวหอมมะลิหรือข้าวสุพรรณ ข้าวชัยนาท ในเมื่อคุณชอบแบบไหนถนัดการค้ารูปแบบไหน คุณก็ลงมือทำและทำให้ดี การเปลี่ยนไปตามแรงเหวี่ยงของตลาดนั้นก็ต้องมี แต่ในที่สุดคุณก็ต้องหันมาจับรูปแบบที่คุณชอบ มีหลายโรงสีพยายามจะทำทั้งสองตลาด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย การขายของโรงสีมีหลายรูปแบบ ขายส่งยี่ปั๊ว ขายผ่านหยง ขายตรงกับผู้ส่งออกขายปลีกหน้าโรงสี ขายส่งต่างอำเภอ ที่กำลังเป็นกระแสคือค้าขายกับหน่วยงานรัฐบาล อ.ต.ก. อ.ค.ส. ถ้าท่านชอบแบบไหนก็ต้องลองทำดูบางครั้งไม่ลองก็ไม่รู้ว่าตัวเราจะยืนอยู่ตรงไหน จงทำในสิ่งที่คุณอยากทำ แล้วความมั่งคั่ง ความสุขจะตามมา

อย่าทำให้ความสำเร็จครอบงำความคิด

บางอย่างที่มักเกิดขึ้นเสมอคือคนที่เคยทำอะไรแล้วประสบความสำเร็จและโชคดีบ่อยๆ มีแนวโน้มที่จะเชื่อมั่นตนเองสูง จะคิดว่าทุกเรื่องเกิดได้เพราะตัวเอง เมื่อมีความคิดแบบนี้ ทำให้ลืมปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ เช่น เวลาที่เหมาะสม ความมีโชคและเรื่องอื่นๆ เมื่อคุณคิดแต่ด้านความสำเร็จ ความเครียดจะพุ่งขึ้นสูงมากเป็นทวีคูณและคุณภาพชีวิตจะตกต่ำลงอย่างรวดเร็ว เพื่อนๆจะเลิกนึกถึงคุณและที่สุดคุณก็จะเลิกรักตัวเองไปด้วย มีกี่ครั้งแล้วที่คุณเคยได้ยินว่าโรงสีนั้น เจ้าของโรงสีโชคดีเป็นคนน่ารัก แต่หลังจากที่เขาประสบความสำเร็จอย่างสูงบ่อยครั้งเขากลายเป็นคนเห็นแก่ตัว โลภมากไม่สนใจคนรอบข้าง และเรียกร้องความสนใจจากคนใกล้ชิด เมื่อมาถึงจุดนี้ จุดที่เขาได้ในสิ่งที่ทุกคนต้องการ นั่นคือความสำเร็จแล้วเขาก็กลายเป็นคนที่คุยด้วยลำบากเต็มไปด้วยความวิตกกังวล คิดว่าคนอื่นจะมาทำให้เขาต่ำลง อะไรๆในสายตาเขาแย่ไปหมด เช่น บ้านเล็กไป รถต้องดีกว่านี้ มีอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย มองไปข้างหน้าไม่ค่อยเห็นเพราะความโลภมาบดบัง นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากมายพวกเขาล้วนมาจากการทำงานหนัก จังหวะเวลาที่เหมาะสม โชคเข้าข้่างและองค์ประกอบอื่นๆอีกมาก แต่แทนที่เขาจะพยายามรักษาคุณสมบัติเหล่านี้ไว้กับตัวเขากับกำจัดมันออกไปราวกับว่าโลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย น่าประหลาดใจที่อาจารย์สอนวิชาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตอย่างเป็นสุขแต่กลับมีนิสัยเป็นคนที่เอาใจยาก คำถามคือ "ทำไมทุกคนเป็นอย่างนี้" ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะประสบความสำเร็จตามที่ฝันไว้ หรือกำลังทำความฝันให้กลายเป็นความจริงก็ตาม จงอย่าปล่อยให้ความสำเร็จมาครอบงำความคิดเด็ดขาด หากว่าคุณถลำตัวเข้าไปบ้างแล้วก็ตาม จงถอนตัวออกเสียตั้งแต่บัดนี้ เพราะในความเป็นจริงแล้วคุณสามารถประสบความสำเร็จมีโชคดีและร่ำรวยไปพร้อมๆกับการมีสติ สุภาพ และใจดีเหมือนเดิมได้ ถ้าคุณทำได้อย่างนี้นอกจากคุณจะประสบความสำเร็จแล้ว คุณยังเป็นคนที่มีความสุขอีกด้วย

เจรจาไม่ได้ผล จงหยุดไว้ก่อน แล้วค่อยเริ่มใหม่

หลายคนคิดว่าการเจรจาต่อรองเป็นเรื่องน่าอาย จริงๆแล้วในโลกของธุรกิจคือการต่อรอง ถ้าหากท่านไม่ชอบต่อรองเพราะเกรงว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะไม่ยอม เพราะถ้าเขาไม่ยอมก็จะไม่ได้สิ่งที่เขาต้องการเช่นกัน คุณต้องยอมแลกอะไรบางอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ เช่น ราคากับความชื้น เวลาการส่งมอบ คุณภาพสินค้า ระยะเวลาการชำระเงิน การรับสินค้า (การลงข้าวเปลือกที่รวดเร็ว) การตรวจคุณภาพที่มาตรฐาน น้ำหนักเที่ยงตรง เหล่านี้คือข้อมูลที่ท่านนำมาต่อรองกับพ่อค้าข้าวเปลือก ในด้านการขายก็เช่นกัน เราสามารถต่อรองได้ถ้าท่านมีความมั่นใจ เช่น ระยะเวลาการส่งมอบ สินค้าที่ได้มาตรฐาน เปอร์เซ็นต์ที่แน่นอนแม่นยำ การส่งมอบตรงเวลา ไม่มีปัญหาเรื่องความชื้น ที่สำคัญคือต้องมีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้า ถ้าไม่สำเร็จก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องไปยึดติดกับมันมากนัก พรุ่งนี้ค่อยคุยใหม่ ยังมีเวลาอีกมากในการทำธุรกิจ ถ้าท่านมีเวลาจำกัด ผู้ซื้อหรือผู้ขายเขารู้จุดอ่อนของคุณ การต่อรองคุณย่อมเป็นรองตลอดไม่มีโอกาสเป็นต่อ

มีคนพูดว่าการต่อรองที่ดีคือการสร้างมิตรภาพที่ดียื่ง ไม่มีธุรกิจใดที่ไม่มีการต่อรอง และการต่อรองที่ดีจะชนะทั้งสองฝ่าย แม้แต่ในครอบครัว สามี ภรรยา ก็มีการต่อรอง ลูกกับพ่อ ลูกกับแม่ พ่อกับแม่ต่อรองกับลูกอะไรทำนองนี้เกิดขึ้นเสมอๆ ท่านลองคิดดูว่าวันหนึ่งๆ ท่านต่อรองกับใครบ้าง ถ้าวันนี้ไม่สำเร็จ พรุ่งนี้ลองใหม่