โอกาสในการส่งออกข้าวของ สปป.ลาว
ในปีที่ผ่านมา สปป.ลาว ได้ส่งเสริมมาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัย ในธุรกิจข้าว เพื่อสร้างความมั่นใจในการส่งออกข้าว โดยรัฐบาลของ สปป.ลาว ได้ส่งเสริมให้โรงสีและผู้ประกอบการค้าข้าว ให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานความสะอาดของข้าวที่จะส่งออก ตามมาตรฐานของประเทศผู้นำข้าวที่สำคัญ โดยรัฐบาลมีแผนที่จะเพิ่มการส่งออกข้าวจากเดิมร้อยละ 70 เป็น 4.20 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้นอีก 2.56 ล้านตันข้าวสารนั่นเอง

สำหรับการส่งออกข้าวไปจีนนั้น บริษัท Xuanye (Lao) Co.,Ltd ของจีน ซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการพัฒนาและปฎิรูปแห่งชาติจีน ให้เป็นผู้ส่งออกข้าวจาก สปป.ลาว ไปจีนเพียงรายเดียว ด้วยจำนวนโควต้ากว่า 8,000 ตัน และภายใต้ความร่วมมือระหว่างสองประเทศ ทำให้ในอนาคตข้าวของ สปป.ลาว อีกจำนวนมากจะถูกส่งออกไปจีน โดยรัฐบาล สปป.ลาว จะสนับสนุนการส่งออกข้าวของประเทศอย่างต่อเนื่อง

ในส่วนของสายพันธุ์ข้าวที่ใช้ผลิตเพื่อส่งออก คือ "ข้าวหอมสวรรค์" ซึ่งเป็นข้าวสายพันธุ์ท้องถิ่นของแขวงสะหวันนะเขต โดยมีการเปิดตัวข้าวสารที่นำเข้าจาก สปป.ลาว ที่เมืองฉางซา มณฑลหูหนานของจีน เป็นสัญลักษณ์แสดงให้เห็นว่า ข้าว สปป.ลาว ได้ตีตลาดจีนแล้วอย่างเป็นทางการ และสิ่งที่น่ากลัวมากสำหรับผู้ส่งออกข้าวไทย คือ จีนและ สปป.ลาว จะเป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล แต่มความพยายามที่จะจัดทำข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนาทางรถไฟเพื่อเชื่อมต่อระหว่าง สปป.ลาว ซึ่งจะทำให้มีทางเชื่อมกันระหว่าง จีน - สปป.ลาว และ ไทย
ถึงตรงนี้เราควรจะจับตามองจุดแข็งของข้าว สปป.ลาวไว้ 2 เรื่องคือ
1. ข้าวของ สปป.ลาว ส่วนใหญ่เป็นข้าวอินทรีย์
2. สปป.ลาว มีผลผลิตต่อไร่สูงกว่าข้าวไทยถึง 2 เท่า และมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการผลิต โดยเฉพาะในส่วนของโรงสีและโกดังเก็บข้าว ขณะเดียวกันการเปิดตลาดส่งออกข้าวไปประเทศจีน ยังมีบริษัท Xuanye (Lao) Co.,Ltd ของจีนเพียงเจ้าเดียว ที่นำส่งออก ทำให้นโยบายเรื่องการส่งออกชัดเจน โดยเฉพาะในเรื่องโควต้าและราคาส่งออก

แม้วันนี้ สปป.ลาว จะยังแข่งขันกับประเทศไทยเราในเรื่องการส่งออกข้าวไม่ได้ แต่ภายในระยะเวลา 5-10 ปี คาดว่าจะมีการพัฒนาอยู่ในระดับที่ไกล้เคียงกับธุรกิจข้าวของไทยเราอย่างแน่นอน และอาจจะเหนือกว่าข้าวไทยของเราก็เป็นได้ หากสถานการณ์ข้าวของไทยเรายังวนเวียนอยู่กับปัญหาเดิมๆ เหมือนอย่างทุกวันนี้
คิดๆแล้ว ถ้าประเทศผู้ส่งออกข้าวอาเซียนรวมตัวกันแบบกลุ่มโอเปคได้ ข้าวไทยของเราคงจะดีกว่านี้อย่างแน่นอน