top of page

กลยุทธ์ชนะด้วยการเปลี่ยนแปลง


เราไม่มีวันรู้ว่าพรุ่งนี้ราคาข้าวเปลือก-ข้าวสารจะขึ้นราคา หรือลงราคาสถานการณ์แบบนี้การบริหารแบบสู้ๆและแลกหมัด ใจร้อน ไม่รอบคอบมีแต่จะล้มเหลว บางคนชอบสู้ด้วยเดิมพันสูงๆ แล้วมานั่งเสียใจมีให้เห็นบ่อยๆ ต้องมีสติ รอบคอบ คิดใตร่ตรองให้รอบคอบอีกนิด การสู้ อย่างอ่อนประสบการณ์ ถ้าพลาดจะต้องพบกับการขาดทุนยากที่จะแก้ไข

ธุรกิจโรงสีข้าวนั้นเป็นการทำตลาดอนาคต เพราะว่าไม่มีวันรู้ว่าราคาข้าวจะขึ้นหรือลงในวันพรุ่งนี้ เพราะถ้ารู้ก็รวยทุกคนไปแล้ว วันไหนที่ราคาข้าวสารลง ราคาข้าวเปลือกไม่ลง แต่ถ้าราคาข้าวสารขึ้นเพียงเล็กน้อยแต่ราคาข้าวเปลือกขึ้นไปรอข้างหน้าแล้วฉะนั้นถ้าท่านรู้ล่วงหน้าท่านก็มีกำไรอย่างแน่นอน

ในประวัติที่ผ่านมามีผู้สันทันกรณีบอกว่า “ ข้าวเปลือกนั้นถึงจะลงราคาก็ไม่นาน ส่วนมากจะขึ้นท้ายๆฤดูกาล แต่ถ้าข้าวสารลงราคาจะลงเป็นเวลานาน ”ธุรกิจโรงสีข้าวต้องติดตามตลาดโลกเพราะสถานการณ์ของตลาดข้าวสารของโลกนั้นอ่อนไหวมีทั้งข่าวจริงและข่าวลวง “ จริงบอกว่าเท็จ เท็จบอกว่าจริง ”

กฎของการทำธุรกิจในสถาวะถดถอยที่มีการบันทึกไว้ คือ ให้มองอนาคตตลาดของข้าวเปลือกและข้าวสารแบ่งเป็น 3 ระยะ คือระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว มีวิสัยทัศน์ เก็บข้อมูล อย่าเสี่ยงกับราคาที่ผันผวนโดยไม่จำเป็น (การขายจำนวนมากๆ ) อย่าอวดเก่ง อย่าเหลิง (ว่าตนเองข้อมูลแม่นกว่าคนอื่น ) ไม่เสี่ยงโชค (ข้อมูลดี ) ทำการด้วยความรอบคอบ ไม่ผลีผลาม ไม่รีบร้อน

ต้องคาดเดาถึงสถานะการณ์เลวร้าย หากไม่เป็นไปตามที่คิดพร้อมรับเหตุการที่ไม่ปกติ (สิ่งปกติแต่เร่งด่วนจนผิดสังเกตุเหนือความคาดหมาย) ต้องรอบคอบ อ่านเกมออก ( มีความสามารถคาดเดาเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ ) ที่สำคัญมากที่สุดคือ ความประมาท คิดว่าไม่เป็นไร มันคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้

#ธุรกิจการสีข้าวนั้นมีการแข่งขันกันทุกพื้นที่ในประเทศ #ผู้ที่มีความสามารถกว่าและทุนมากกว่า #ลดต้นทุนในการสีข้าวมากกว่า #ย่อมทำกำไรได้มากกว่า

สวัสดีครับ วิสูตร

23/05/2559


Featured Posts